By : Armwanwi
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lagerstroemai macrocarpa Wall.
ชื่อวงศ์ : LYTHRACEAE
ชื่อสามัญ : Queen's flower, Queen's crape myrtle.
ชื่ออื่นๆ : กากะเลา กาเสลา จ่อล่อ จะล่อ จะล่อหูกวาง บางงอ บะชะ บาเอ
ถิ่นกำเนิด : ที่ราบลุ่มริมน้ำ ป่าเบญจพรรณชื้นและป่าดิบทั่วไป
ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 10 - 15 เมตร ลำต้นเปลาตรงเรือนยอดเป็นพุ่มกลม ผิวเปลือกนอกสีเทา ใบเป็นใบเดี่ยว รูปรีหรือรูปไข่แกมขอบขนาน มี 2 ชนิดคือ อินทนิลน้ำและอินทนิลบก
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่กลับหรือรูปขอบขนานแกมรูปรี กว้าง 8 - 12 เซนติเมตร ยาว 12 - 28 เซนติเมตร ปลายใบทู่หรือมนโคนใบสอบแหลมหรือมน ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อยและห่อขึ้น แผ่นใใบหนาและเหนียว สีเขียวสดเป็นมัน ก้านใบยาว 0.5 - 1 เซนติเมตร
By : Armwanwi
ดอก สีชมพูอมม่วงจนถึงม่วงเข้ม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้ง ยาว 15 - 30 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย มีสันนูนตามยาว และมีขนสั้นประปราย ปลายแยกเป็น 6 แฉก กลีบดอก 6 กลีบทรงกลมโคนคอดเรียวเป็นก้านสั้นๆ กลีบดอกบางเป็ยรอยยับย่น เกสรเพศผู้สีเหลืองจำนวนมาก เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 10 - 12 เซนติเมตร ออกดอกเดือน ก.พ. - พ.ค. ออกดอกเมื่ออายุ 4 - 6 ปี
By : Armwanwi
By : Armwanwi
ผล ผลแห้งแตกกลางพู รูปรีค่อนข้างกลมขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 3 - 4 เซนติเมตร เปลือกเกลี้ยงแข็ง มีกลีบเลี้ยงคงอยู่ เมื่อสุกจะมีสีน้ำตาล เมล็ดแบนมีปีกสีน้ำตาลอมเหลืองจำนวนมาก ติดผลเดือน เม.ย. - ก.ค. ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด
การใช้ประโยชน์ : เนื้อไม้ใช้ก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน เนื้อแข็งปานกลางจนถึงแข็งใช้เป็นไม้ประดับให้ร่มเงา ดอกสีสวยสดงดงาม ตลอดทั้งเปลือก ต้น ใบ ใช้เป็นยาสมุนไพร
ชื่อวงศ์ : LYTHRACEAE
ชื่อสามัญ : Queen's flower, Queen's crape myrtle.
ชื่ออื่นๆ : กากะเลา กาเสลา จ่อล่อ จะล่อ จะล่อหูกวาง บางงอ บะชะ บาเอ
ถิ่นกำเนิด : ที่ราบลุ่มริมน้ำ ป่าเบญจพรรณชื้นและป่าดิบทั่วไป
ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 10 - 15 เมตร ลำต้นเปลาตรงเรือนยอดเป็นพุ่มกลม ผิวเปลือกนอกสีเทา ใบเป็นใบเดี่ยว รูปรีหรือรูปไข่แกมขอบขนาน มี 2 ชนิดคือ อินทนิลน้ำและอินทนิลบก
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่กลับหรือรูปขอบขนานแกมรูปรี กว้าง 8 - 12 เซนติเมตร ยาว 12 - 28 เซนติเมตร ปลายใบทู่หรือมนโคนใบสอบแหลมหรือมน ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อยและห่อขึ้น แผ่นใใบหนาและเหนียว สีเขียวสดเป็นมัน ก้านใบยาว 0.5 - 1 เซนติเมตร
ดอก สีชมพูอมม่วงจนถึงม่วงเข้ม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้ง ยาว 15 - 30 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย มีสันนูนตามยาว และมีขนสั้นประปราย ปลายแยกเป็น 6 แฉก กลีบดอก 6 กลีบทรงกลมโคนคอดเรียวเป็นก้านสั้นๆ กลีบดอกบางเป็ยรอยยับย่น เกสรเพศผู้สีเหลืองจำนวนมาก เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 10 - 12 เซนติเมตร ออกดอกเดือน ก.พ. - พ.ค. ออกดอกเมื่ออายุ 4 - 6 ปี
ผล ผลแห้งแตกกลางพู รูปรีค่อนข้างกลมขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 3 - 4 เซนติเมตร เปลือกเกลี้ยงแข็ง มีกลีบเลี้ยงคงอยู่ เมื่อสุกจะมีสีน้ำตาล เมล็ดแบนมีปีกสีน้ำตาลอมเหลืองจำนวนมาก ติดผลเดือน เม.ย. - ก.ค. ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด
การใช้ประโยชน์ : เนื้อไม้ใช้ก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน เนื้อแข็งปานกลางจนถึงแข็งใช้เป็นไม้ประดับให้ร่มเงา ดอกสีสวยสดงดงาม ตลอดทั้งเปลือก ต้น ใบ ใช้เป็นยาสมุนไพร
เรียบเรียงโดย : นางสาววัลวิภา คำวงค์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : วารสารประชาสัมพันธ์โรงเรียนตาคลีประชาสรรค์ (อินทนิล)โดย..ครูรัศมี ธรรมวงศ์
ที่มา : http://www.thaikasetsart.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น